แหล่งไม้สักใหม่กว่า 30,000 ไร่ |
"การค้นพบแหล่งไม้สักดังกล่าวถือเป็นเรื่องบังเอิญในการ บินตรวจสภาพพื้นที่ป่าในเขตภาคเหนือด้วยเฮลิคอปเตอร์ ทำให้สังเกตเห็นผืนป่าสักที่ออกดอกสะพรั่งเกือบทั้งป่า จึงได้มอบหมายให้นายนพดล พฤกษะวัน ผู้อำนวยการส่วนอนุรักษ์ทรัพยากร ลงพื้นที่สำรวจข้อมูล เมื่อ 2-3 วันที่ผ่านมา ได้รับรายงานว่า เป็นป่าสักที่มีความสมบูรณ์จริง ซึ่งได้รายงานให้นายสุวิทย์ คุณกิตติ รัฐมนตรี ทส.รับทราบข้อมูลการค้นพบแหล่งไม้สักแล้ว พร้อมทั้งสั่งการให้เจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าลุ่มน้ำปาย ปิดทางเข้าออกป่าทุกจุดและตรวจตราพื้นที่อย่างละเอียด เพื่อป้องกันการลักลอบตัดไม้สักในพื้นที่ และเตรียมเสนอให้ขึ้นทะเบียนเป็นแหล่งศึกษาไม้สักของโลก เพราะถือว่าเป็นแหล่งไม้สักที่เติบโตเองตามธรรมชาติ พร้อมหารือคณะวนศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เพื่อเตรียมเข้าไปสำรวจชนิดพันธุ์ไม้สักอีกครั้ง เพราะปกติแล้วไม้สักส่วนใหญ่จะขึ้นในป่าสูงไม่เกิน 800 เมตรแต่ที่มีการรายงานขึ้นมาป่าสักขึ้นสูงถึง 1,200 เมตรจากระดับน้ำทะเล
นาย นพดลกล่าวว่า จากการเข้าตรวจสอบของส่วนวิจัยพืชและสัตว์ป่าหายาก พบว่าไม้สักที่ลุ่มน้ำปายพื้นที่ 30,000 ไร่เป็นแหล่งไม้สัก ที่มีลักษณะเด่นกว่าไม้สักในแหล่งอื่นในเขตภาคเหนือ โดยเทียบจากข้อมูลของทางสหภาพสากลว่าด้วยการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและ สิ่งแวดล้อม (ไอยูซีเอ็น) มีการทำบันทึกว่าไม้สักจะขึ้นที่ความสูงราว 300-800 เมตรจากระดับน้ำทะเล แต่จากการตรวจไม้สักผืนนี้กลับพบมีไม้สักขึ้นได้สูงถึง 1,200 เมตรจากระดับน้ำทะเล โดยในป่าแถบนี้จะมีไม้สักกับไม้แดงขึ้นปะปนกันอยู่ในระดับที่สม่ำเสมอ
" จากการตรวจสอบในป่ายังเจอตอไม้สักอายุประมาณ 300 ปีที่หลงเหลืออยู่จากการทำไม้ในสมัยรัชกาลที่ 6 ส่วนไม้สักที่ขึ้นหนาแน่น น่าจะเป็นป่ารุ่นลูก อายุประมาณ 100 ปี ซึ่งมีลักษณะการขึ้นแบบสม่ำเสมอ และอัตราการเจริญเติบโตเฉลี่ยประมาณ 3 ซม. ต่อปี ลำต้นสูงตรงเฉลี่ย 38-40 ซม. นอกจากนี้ ที่แตกต่างจากไม้สักบริเวณอื่นๆ คือแถวพื้นที่ อ.แม่ยม จ.แพร่ น่าน รวมทั้งในอุตรดิตถ์คือ ไม้สักที่ลุ่มน้ำปายจะมีเรือนยอดที่ต่างจากที่อื่นๆ เพราะจะมีกิ่งเฉพาะที่เรือนยอดเท่านั้น" นายนพดลระบุ
0 comments:
Post a Comment