PC กับ Server ต่างกันตรงไหน ????
Alert ต่างๆ : อัน นี้ต้องบอกว่า PC นั้นไม่มี และ Server ประกอบก็ไม่มีเช่นกัน เทคโนโลยี่ Server นั้นก้าวไกลมาก ถึงขนาดที่ Server บางรุ่น สามารถบอกให้คุณได้รู้ล่วงหน้าด้วยซ้ำว่าอุปกรณ์กำลั งจะเสีย เสียชิ้นไหน เสียตัวที่เท่าไร ลองนึกภาพ หากคุณใส่ Memory ไปทั้งหมด 8 แถว แล้วเกิด Memory เสีย สิ่งที่เราต้องทำก็คือ ถอดออกทีละแถว แล้วรันดูว่าอันไหนเสีย แต่เทคโนโลยี่ Server บางยี่ห้อ สามารถกดปุ่มใน board แล้วขึ้นไฟบอกได้เลยว่า Memory แถวไหนเสีย หรือหาก Harddisk กำลังเสีย วิ่งด้วยความเร็วผิด Speed ก็จะแจ้งเตือนที่หน้าเครื่องว่ากำลังจะเสีย สิ่งนี้คุณจะไม่พบได้เลยใน PC หรือแม้กระทั้ง Server ประกอบ Mainboard : จริงๆแล้ว Mainboard เป็นส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนการทำงานทั้งหมดของคอมพ ิวเตอร์ ชื่อก็บอกอยู่ล่ะว่า Main ถามต่อไปว่าต่างกันขนาดนั้น คงต่างกันที่สถาปัตยกรรม Board Server ถูกออกแบบมาให้รันได้ตลอด 24 ชม แต่ PC ไม่ใช่อย่างนั้น ส่วน Slot ต่างๆก็จะแตกต่างกัน Server โดยส่วนใหญ่จะ Onboard พวกการ์ดจอ และก็เช่นกัน มักไม่มี Sound Card ทั้งที่เพราะส่วนใหญ่นำ Server ไว้ share file รัน application เลยไม่ค่อยฟังเสียงกัน คนที่ใช้งาน multimedia มากๆมักจะใช้ workstation มากกว่า Server Memory : บางคนอาจจะ โห มันต่างกันด้วยเหรอ ต่างครับ Server จะใช้ Memory ที่เรียกว่า ECC Memory จะเป็น Memory ที่มีระบบป้องกันการส่งข้อมูลผิดพลาด อีกทั้ง Memory สำหรับบางยี่ห้อที่เป็น Chipkll คือเป็นเหมือน Mirror Memory เลยทีเดียว คือ หากคุณมี Memory 4 แถว เกิดพังไป 1 แถว ถ้าเป็น PC รันไปถึง Memory ตัวนั้นก็คงแฮงไปเลย แต่ Server ไม่พังคับ ก็ยังรันต่อไปได้ โดยไม่มีสะดุด้ Hard Drive : หรือ Harddisk นั้นแหละ ทำไมต่างกันนั้นเหรอ สำหรับ PC เราคงรู้จัก IDE กัน แล้วก็เดี๋ยวนี้คงเป็น Serial ATA (SATA) มาแทน IDE แต่สำหรับ Server นั้นจะสามารถใช้งาน SCSI ได้ ซึ่งเป็น Harddisk ที่ดีที่สุด ณ ตอนนี้ แล้วยังมีเทคโนโลยี่ใหม่เรียกว่า SAS (แซด) ฟังดูเศร้าๆ แต่ก็เป็นเทคโนโลยี่ของ SCSI ใหม่ที่ทำให้ทำงานได้เร็วขึ้นไปอีก RAID Controller : RAID หลายคนอาจจะฟังแล้วไม่คุ้น บางคนก็คงคุ้นเคย ใน PC นั้นไม่มี RAID แน่นอนทำให้เลยไม่คุ้นสักเท่าไร แต่ใน Server นั้น RAID มีความสำคัญมาก ถ้าพูดถึงข้อมูลแล้ว เราคงให้ความสำคัญอย่างมาก ดังนั้นเลยมีเทคโนโลยี่ RAID เพื่อช่วยป้องกัน Harddisk พัง ซึ่งจะทำให้มี Harddisk ที่พร้อมทำงานแทนตลอดเวลาเมื่อลูกใดลูกหนึ่งพัง ก็ไม่ต้องมานั่งกู้ข้อมูล Restore กันให้วุ่นวาย รวมถึง RAID ยังสามารถทำให้ประสิทธิภาพในการเรียกใช้งาน Harddisk ทำได้เร็วขึ้นด้วย ก็มีเช่นกัน ดังนั้นทำให้หลายองค์กรก็เลือกใช้ RAID เพื่อป้องกันข้อมูลที่สำคัญของตนเอง ไว้ผมจะเขียนเรื่อง RAID ให้ว่าแต่ละ RAID ต่างกันอย่างไรมันมีตั้งแต่ RAID 0,1,5,0+1,10 สารพัด RAID |
ขอบคุณที่มา 2beshop
0 comments:
Post a Comment