Sunday, July 19, 2009

ของเล่นใหม่จากกูเกิล Google Wave

แอปพลิเคชันออนไลน์ที่จะทำให้ผู้ใช้ลืมการเปิดหน้าต่างหลาย ชั้นเพื่อรับส่งอีเมล แชตกับเพื่อน แชร์ไฟล์ภาพ และใช้งานเครื่องมืออื่นๆ เพราะกูเกิลเวฟจะรวมทุกอย่างไว้ในที่เดียวเพื่อใช้งานแบบเรียลไทม์
 

 

กูเกิลเวฟถูกออกแบบมาเพื่อให้กลุ่มเพื่อนหรือกลุ่มคนทำงาน มีช่องทางใหม่ในการติดต่อสื่อสารและแบ่งปันข้อมูล-ความคิด การันตีฝีมือการสร้างเดียวกับทีมปั้น Google Maps ซึ่งได้รับความนิยมทั่วโลกในขณะนี้ เชื่อ Wave จะเป็นคลื่นการสื่อสารระลอกใหม่ที่ทำให้โลกอินเทอร์เน็ตเกิดการเปลี่ยนแปลง

กูเกิลประเดิมสาธิตการทำงานของกูเกิลเวฟ (Google Wave) เวอร์ชันพรีวิวอย่างเป็นทางการในงานประชุมนักพัฒนา Google I/O เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคมที่ผ่านมา

ต้องสร้าง"เวฟ"ของตัวเองก่อน

หลักการทำงานของกูเกิลเวฟคือ ผู้ใช้ต้องสร้างหัวข้อสนทนาขึ้นมาก่อนแล้วจึงเพิ่มชื่อผู้ติดต่อหรือสมาชิก ที่ต้องการสื่อสารด้วยลงไป หัวข้อสนทนาจะถูกเรียกว่า"เวฟ (wave)"โดยทุกคนที่อยู่ในรายการเวฟสามารถใส่คอมเมนท์ได้ทุกพื้นที่ของข้อ ความอย่างเสรี สามารถพิมพ์ข้อความตอบคอมเมนท์หรือแก้ไขเวฟได้โดยตรง หรืออาจใส่ภาพ โปรแกรมเก็ดเจ็ด รวมถึงฟีดจากเว็บไซต์บนอินเทอร์เน็ต

ผลคือทุกคนไม่จำเป็นต้องใส่คอมเมนท์ไว้ท้ายบทความหรือท้ายข่าว แต่สามารถใส่ไว้ที่กลางบทความ หรือพื้นที่ใดของบทความก็ได้ โดยใส่ได้หมดทั้งข้อความ ภาพ และวิดีโอ

ความเป็นเรียลไทม์ของกูเกิลเวฟ พัฒนาถึงขั้นที่ว่าเจ้าของเวฟจะสามารถมองเห็นว่าคนในเวฟกำลังพิมพ์ตัวอักษร อะไรในขณะนั้น ทำให้เกิดการสื่อสารที่เร็วกว่าโปรแกรมแชตปกติ และให้ความรู้สึกในการโต้ตอบกับคนในกลุ่มได้แบบเรียลไทม์จริงๆ ทั้งหมดทำให้เวฟเป็นส่วนผสมที่ผู้ใช้สามารถสื่อสารกัน ทำงานร่วมกัน แบ่งปันข้อมูล และให้ความรู้สึกเรียลไทม์แท้จริง โดยเวฟสามารถนำมา 'playback' หรือย้อนดูความเปลี่ยนแปลงของเวฟในอดีตได้ด้วย

ความที่ระบบเพื่อนของกูเกิลเวฟมีลักษณะคล้ายเครือข่ายสังคม คือเพิ่มชื่อเพื่อนและแยกลำดับความสำคัญได้ ทำให้มีการเปรียบเทียบว่ากูเกิลเวฟคือเฟสบุ๊ก (Facebook) แบบเรียลไทม์ ส่วนความสามารถในการแก้ไขเวฟได้พร้อมกับเพื่อนในกลุ่ม ทำให้ถูกนำไปเปรียบเทียบว่าคือสารานุกรมออนไลน์วิกิพีเดีย (Wikipedia) ที่ทุกคนแก้ไขได้พร้อมกัน หน้าตาโปรแกรมโดยรวมถูกนำไปเทียบกับโปรแกรมเพื่อการสื่อสารและทำงานร่วมกัน (collaboration) ราคาแพงอย่าง Lotus Notes หรือ IBM Workplace

กูเกิลสรุปในเว็บไซต์ว่า เทคโนโลยีสำคัญของกูเกิลเวฟประกอบด้วย 3 ส่วนหลัก หนึ่งคือ Real-time collaboration เทคโนโลยีควบคุมการทำงานร่วมกันซึ่งจะทำให้ทุกคนบนเวฟสามารถแก้ไข"ริชมีเดีย "ได้พร้อมกัน สองคือ Natural language tools เครื่องมือสะกดคำอัจฉริยะที่ใช้บริบทข้อความในการตัดสินใจ โดยกูเกิลสาธิตว่า หากมีการพิมพ์ข้อความ Icland is an icland ระบบจะแก้เป็น Iceland is an island ให้โดยวิเคราะห์ด้วยเซิร์ฟเวอร์ที่มีคลังข้อมูลการเขียนอยู่

และสามคือเทคโนโลยี Extending Google Wave ที่จะทำให้เวฟถูกนำไป embed หรือฝังไว้ในเว็บไซต์อื่นๆ โดยกูเกิลจะออก Google Wave APIs เพื่อให้นักพัฒนาทั่วไปสามารถเพิ่มโปรแกรมเครือข่ายสังคมใหม่ๆลงในเวฟได้

กำเนิด"เวฟ"

ในบล็อกของกูเกิล ผู้นำทีมพัฒนากูเกิลเวฟอย่าง Lars Rasmussen ผู้จัดการฝ่ายวิศวกรรมซอฟต์แวร์ของกูเกิล พร้อมกับทีมซึ่งเป็นหนึ่งในทีมสร้างเว็บแอปพลิเคชันแผนที่ยอดฮิตอย่างกู เกิลแม็ปส์ เล่าถึงจุดกำเนิดของกูเกิลเวฟว่ามาจากพี่ชายนาม Jens Rasmussen ที่มั่นใจมากว่า"เทคโนโลยีการสื่อสารในอนาคต"ควรจะเป็นคอนเซ็ปต์ต่อไปที่ทีม ควรให้ความสนใจหลังจากทำโปรเจคกูเกิลแมปส์เสร็จสิ้น

ทั้ง Lars และ Jens เป็นผู้ร่วมก่อตั้งบริษัท Where 2 Tech ที่กูเกิลซื้อมาเมื่อปี 2004 โดยหลังจากนำผลงานที่มีมาปรับแต่งและเปิดให้บริการในนามกูเกิลแม็ปส์แล้ว ทีมพัฒนาซึ่ง Lars ใช้คำในบล็อกว่า "5 ผู้บุกเบิก"หรือ five-person startup จึงได้เริ่มต้นคิดว่าควรจะทำโครงการอะไรต่อจากแอปพลิเคชันด้านแผนที่

Lars เล่าว่า Jens เป็นผู้ชี้คำตอบให้ทีมว่าจะต้องเป็นระบบการสื่อสาร จุดนี้ Jens วิเคราะห์ว่าช่องทางการสื่อสารในโลกดิจิตอลที่ประสบความสำเร็จสูงที่สุดคือ อีเมลและโปรแกรมแชตหรือโปรแกรมไอเอ็ม แต่อีเมลก็เกิดขึ้นโดยจำลองการส่งจดหมายซึ่งเป็นช่องทางการสื่อสารของมนุษย์ มานาน ขณะที่โปรแกรมแชตก็เรัยกได้ว่าเป็นการจำลองการโทรศัพท์

นอกเหนือจาก 2 โปรแกรมนี้ โลกยังมีการคิดค้นรูปแบบสื่อสารอื่นๆอยู่ตลอดเวลาที่ผ่านมา เช่น บล็อก วิกิ แอปพลิเคชันสำหรับการทำงานด้านเอกสารร่วมกัน และเครื่องมืออื่นๆที่มีรูปแบบแยกกัน ซึ่งเมื่อพิจารณาร่วมกับระบบคอมพิวเตอร์และเครือข่ายที่ถูกพัฒนาอย่างต่อ เนื่อง ทั้งหมดส่งให้ Jens ต้องการสร้างรูปแบบการสื่อสารใหม่ที่สามารถรวมความก้าวหน้าทุกอย่างไว้ในจุด เดียว

หลังจากเปลี่ยนโปรแกรมแผนที่ต้นแบบของ Where 2 Tech ให้เป็นกูเกิลแม็ปส์ราว 2 ปี พี่น้อง Rasmussen จึงตัดสินใจว่าถึงเวลาแล้วที่จะต้องออกจากทีมกูเกิลแม็ปส์เพื่อเริ่มเปลี่ยน แนวคิดของ Jens ให้เป็นรูปเป็นร่างโครงการเสียที ใช้ชื่อโครงการว่า "Walkabout" ในช่วงแรก

ทีมพัฒนาเริ่มต้นทำงานด้วยโจทย์ว่า ทำไมเราจึงต้องมีชีวิตอยู่กับรูปแบบการสื่อสารที่แตกต่างกัน รูปแบบการสื่อสารเดียวจะสามารถให้บริการได้คลุมทุกระบบหรือคลุมระบบการสื่อ สารส่วนใหญ่ที่ถูกใช้งานบนเว็บได้หรือไม่ หากทำได้จะทำอย่างไรให้ง่ายที่สุด และจะเป็นอย่างไร หากทีมจะพยายามออกแบบระบบสื่อสารที่ใช้ความสามารถของระบบคอมพิวเตอร์ใน ปัจจุบัน แทนที่จะเน้นการจำลองระบบสื่อสารเดิมๆที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับอิเล็กทรอนิกส์

คำถามเหล่านี้ถูกนำมาถกซ้ำไปมาในห้องประชุมที่กูเกิลในเมืองซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย หลายเดือนผ่านไป ทีมสามารถสร้างระบบต้นแบบ เพื่อนำไปขยายแนวคิด ขยายทีมงาน และพัฒนาเทคโนโลยีเป็นเวลามากกว่า 2 ปี กระทั่ง Walkabout ถูกเปลี่ยนชื่อเป็น Google Wave และถูกสาธิตการทำงานของเวอร์ชันพรีวิวในงาน Google I/O ในที่สุด

Lars ระบุว่า 'wave' คือส่วนผสมที่เท่ากันระหว่างการสนทนาและงานเอกสาร เป็นที่ที่ผู้ใช้สามารถสื่อสารและทำงานด้วยกันผ่านข้อความ รูปภาพ วิดีโอ แผนที่ที่มีรูปแบบเหนือชั้น

มาตรฐานเปิดเอาใจนักพัฒนา

ในบล็อก Rasmussen ได้แบ่งขอบเขตกูเกิลเวฟออกเป็น 3 ส่วน นั่นคือส่วนผลิตภัณฑ์ ส่วนแพลตฟอร์ม และส่วนโปรโตคอล ส่วนผลิตภัณฑ์เป็นเว็บแอปพลิเคชันที่ทุกคนใช้เข้าถึงและแก้ไขเวฟ เป็นแอปพลิเคชันที่สร้างขึ้นด้วย Google Web Toolkit ตามมาตรฐาน HTML 5 ซึ่งบราวเซอร์ของไมโครซอฟท์ยังไม่รองรับ
กูเกิลโชว์เว็บแอปพลิเคชันใหม่สะท้านวงการนาม "กูเกิลเวฟ (Google Wave)"
แพลตฟอร์มของกูเกิลเวฟเป็นมาตรฐานเปิด เอาใจนักพัฒนาเสรีเต็มที่เช่นเดียวกับโปรโตคอลสำหรับเก็บ แชร์เวฟ และการควบคุม

การทำงานร่วมกันที่ล้วนอยู่ภายใต้มาตรฐานเปิดเช่นเดียวกัน จุดนี้ Adam Schuck วิศวกรในทีมเวฟให้สัมภาษณ์ว่านักพัฒนาจะมองว่าแพลตฟอร์มของกูเกิลเวฟคือ โอกาสทองที่รอคอยมานาน เนื่องจากสิ่งสำคัญที่ถูกคำนึงถึงในการสร้างกูเกิลเวฟ คือความพยายามในการแก้ปัญหาเรื่องความต่างของแพลตฟอร์มและโปรโตคอลที่นัก พัฒนาต้องพบเจอมาตลอดในอดีต

Casey Whitelaw วิศวกรอีกรายในทีมกูเกิลเวฟให้ความเห็นเพิ่มเติมว่า กูเกิลเวฟจะช่วยแก้ปัญหาเก่าๆของระบบทำงานร่วมกันในอดีตได้ ทั้งในเรื่องการจัดการโครงสร้างข้อมูลและการหาโฮสต์เก็บข้อมูล นักพัฒนาจะไม่ต้องเสียเวลาคิดหาทางแก้ปัญหาเหล่านี้อีกต่อไป หน้าที่หลักจึงเหลือเพียงสร้างแอปพลิเคชันดีๆขึ้นมาเท่านั้น

แม้กูเกิลเวฟจะถูกเปิดตัวแล้วในฐานะเวอร์ชันพรีวิวสำหรับนักพัฒนา แต่ Lars Rasmussen ระบุในบล็อกว่ายังไม่มีกรอบกำหนดการให้บริการกูเกิลเวฟอย่างเป็นทางการในขณะ นี้ ซึ่งขณะนี้หลายสำนักพิมพ์ระบุว่าไม่เกินปีนี้แน่นอน

"เราวางแผนจะพัฒนากูเกิลเวฟเวอร์ชันพรีวิวต่อเนื่องไปอีกหลายเดือน เรากำลังตื่นเต้นว่าเสียงตอบรับที่ได้จะเป็นอย่างไร และเชื่อว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงกูเกิลเวฟทั้งในส่วนผลิตภัณฑ์ แพลตฟอร์ม และโปรโตคอลอีกมากมายในอนาคต"
ที่มา:www.bloggang.com
...........................................................................

0 comments:

Post a Comment

 

sanookde Copyright © 2009 Girlymagz is Designed by Bie Girl Vector by Ipietoon