อร่อยมื้อดึกย่านประตูผี ทำไมเรียก “ประตูผี” สมัยรัชกาลที่ 4 เมืองกรุงเทพฯ ได้เกิดโรคระบาด คนไทยป่วยตายด้วยโรคติดเชื้อร้ายแรง อาทิ อหิวาตกโรค กาฬโรค ที่วงการแพทย์สมัยนั้นยังรักษาไม่ได้ จึงเป็นเหตุให้คนตายนับหมื่นๆ คน เมื่อมีคนตายก็ต้องลำเลียงศพออกนอกเขตเมืองเพื่อจะเอาไปเผาที่วัดสระเกศ (วัดนอกกำแพงเมือง ริมคลองมหานาคบรรจบกับคลองบางลำพู ชื่อเดิมเรียก วัดสะแก) ซึ่งเวลานั้นวัดยังเป็นป่ารกชัฏ ศพที่เผาไม่ทันจึงถูกฝูงแร้งบินลงมาไล่กินศพคนตายที่เริ่มจะเน่าเปื่อย ด้วยเหตุนี้จึงมีคำของคนโบราณว่า “อีแร้งวัดสระเกศ เปรตวัดสุทัศน์” และเรียกที่บริเวณแถบนี้ว่า “ประตูผี” เพราะลำเลียงศพเข้ามายังวัดสระเกศ เรียกติดปากว่า ประตูผี แต่ ณ วันนี้ บรรดาผีๆ ไปเกิดหมดแล้ว เหลือแต่ผู้คน และเป็นถนนสายค่ำคืนอีกเส้นที่ชุกไปด้วยอาหารอร่อยและเลื่องชื่อ ทั้งร้านรวง และ รถเข็นริมฟุตบาท ย่านประตูผี “ผัดไท” บุกเบิกและเลื่องชื่อมานานร่วม 30 -40 ปีจนถึงวันนี้ นอกจากผัดไทเจ้าเก่าของลุงประภา สร้อยธำรง แล้วยังมีกลุ่มเครือญาติที่ลุงให้ร่วมกันทำธุรกิจบนบริเวณฟุตปาธหน้าร้านคือ อู๋ ลูกชิ้นปลาเยาวราช ,บัวลอยสมหวังทรงเครื่อง และแม่บุญสม หมูสะเต๊ะ จุดเด่นของ ผัดไทร้านนี้ คือ ใช้เส้นจันท์ และใช้เตาถ่าน เพราะจะให้รสชาติของผัดไทที่นุ่มนวล และกลมกล่อมกว่า เตาถ่านอร่อยกว่า “ ผัดไทต้องใช้เตาถ่าน ถึงจะอร่อย คนทำกับข้าวเป็นจะรู้ อย่างเตาแก๊สร้อนจะร้อนวูบ พอหรี่ไฟปุ๊บมันจะเบาไป เตาถ่านเราจะให้มันนุ่มนวลขนาดไหน ทำได้ทั้งนั้น ตรงนี้สำคัญมาก และเป็นหัวใจของผัดไทเลย” ของแท้ต้องมีขนมเคียงข้าง โจ๊กสำราญราษฎร์ ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่า กำเนิดที่นี่ !! ฉะนั้น ... ชื่อที่ไปปรากฏยังแห่งหนตำบลอื่น ย่อมไม่ใช่ของแท้ โจ๊กหม้อดินสำราญราษฎร์ เพิ่งจะตั้งมาเมื่อ 4-5 ปีนี้เอง ก่อนหน้านี้ ... ห้องแถวแห่งนี้ ขายขนมเบื้อง และขนมไทยมาก่อน “ ถ้าโจ๊กหม้อดินสำราญราษฎร์ของแท้ ต้องมีขนมตามไปด้วย ไม่มีขนมแปลว่า ไม่ใช่” เมย์ ศิริกรณ์ สุวรรณธนาสาร แนะวิธีดูร้านโจ๊กหม้อดินสำราญราษฎร์ของแท้ ความจริงแล้ว ... บ้านหลังนี้เป็นของสามีเธอ และเธอเริ่มต้นจากการสร้างชื่อเสียงด้วย ขนมไทย ขายมาก่อนโจ๊กราว 5-6 ปี “สิ้นปีนี้ ครบ 40 ปีพอดี” ลุงโชติ ใบสมุทร บอกเล่ากับ METRO LIFE ลุงโชติยืนยันว่า ผัดไททิพย์สมัยที่เลื่องชื่อในแถบประตูผีนั้น เป็นผัดไทที่ขายตอนกลางคืนมาโดยตลอด และไม่ได้เป็นสูตรที่คิดขึ้นมาเอง แต่ของทุกอย่างที่ร้านนี้ ไม่ว่าจะเป็นผัดไท, มะพร้าวน้ำหอมปั่นโบราณ ล้วนแต่ เป็นสูตรที่ปู่ ย่า ตา ยายเคยทำให้กิน ในฐานะลูกหลานที่เคยชินกับรสชาติอาหารได้อนุรักษ์และหยิบนำมาใช้ทำมาหากินจนถึงทุกวันนี้ แล้วต่อยอดการผัดที่คงรสชาติดั้งเดิม แล้วดัดแปลงเรื่อยจนถึงยุคของเส้นจันท์ มันกุ้ง กุ้งสด และผัดไททรงเครื่อง เริ่มต้นจากยืนผัดริมฟุตปาธ มาตั้งเป็นร้าน 1 คูหา และสองคูหาตามลำดับ ภารกิจการสืบทอดกิจการวันนี้ ... เป็นหน้าที่ของรุ่นลูก คือ หนุ่ย – ศีขรเชษฐ์ ใบสมุทร ที่อยู่ที่ร้านเป็นประจำ จุดเด่นของผัดไททิพย์สมัยอยู่ที่ “การใช้ของดีและสด” แล้วปรุงรสให้ได้มาตรฐาน เกือบ 40 ปีที่รสชาติยังเป็นแบบเดิม ไม่เคยเปลี่ยน เริ่มต้นที่ 200 บาท อย่าเพิ่งร้องโอ้โห .... ถ้าอาหารจานเด็ดของร้านเจ๊ไฝจะเริ่มต้นที่ราคา 200 บาท “อย่างต้มยำแห้ง จานที่เพิ่งไปเสิร์ฟโต๊ะโน้น ราคาหกร้อยบาท ถ้ามากันหลายคน เพิ่มเครื่อง ราคาจานละ แปดร้อยบาท ราคาจะสูงขนาดไหน เจ๊ก็ทำให้ได้ หกพันก็ทำให้ได้” เจ๊ไฝวางวางตะหลิวและมีโอกาสได้นั่งพักเมื่อตอน 4 ทุ่มกว่า เจ๊ไฝ - .สุกัญญา จันทรสุตะ ก็พร้อมที่จะลุกขึ้นไปวาดลวดลายของเมนูจานเด็ดเหมือนเดิมเมื่อลูกค้าเข้าร้าน เจ้าของร้านไม่ได้ชื่อ “อู๋” แต่ “อู๋” เป็นคำภาษาจีน แปลว่า “มี” – มีลูกชิ้นปลาเยาวราช คือความหมายของร้านนี้ ก๋วยเตี๋ยวรถเข็นเจ้านี้มีศักดิ์เป็นหลานของลุงประภา แต่เดิมนั้นขายก๋วยเตี๋ยวเนื้อมาก่อน แต่เนื่องจากคนเลิกรับประทานเนื้อกันมาก ในระยะหลังจึงเปลี่ยนมาขายลูกชิ้นปลาแทน ตั้งร้านนับถึงวันนี้ก็ร่วม 20 ปี หวานชื่นใจอย่างไทยแท้ เอกลักษณ์ของบัวลอยทรงเครื่องเจ้านี้อยู่ที่ ใช้น้ำมะพร้าวน้ำหอมต้มบัวลอย !! ให้ความหอมและหวานอย่างละมุน ไม่บาดคอเหมือนน้ำตาล เจ้าของร้านชื่อ สมหวัง มีแก้ว วัย 38 ปี ภรรยาของเขาทำงานอยู่ที่ร้านผัดไท ลุงภา นี่แหละ ลุงภาเลยใจดีให้ตั้งร้านเพื่อหารายได้พิเศษ บัวลอยสมหวัง ตั้งมาแล้ว 4 ปี จุดเด่นของร้านคือ เอกลักษณ์แบบไทยๆที่เป็นตัวดึงดูดลูกค้าเป็นอย่างดี หมูสะเต๊ะ เจ้าเก่าสำราญราษฎร์ แม่บุญสมนั้น เป็นน้องสะใภ้ของลุงภา เป็นหมูสะเต๊ะอีกเจ้าหนึ่งที่ได้รับการต้อนรับจากลูกค้าในแถบนี้มาก ถือเป็นร้านอร่อย แต่ไม่เน้นขนมปังย่างอย่างเจ้าอื่น เรียกว่าเป็นหมูล้วนๆ ส่วนวัตถุดิบคือ หมูเสียบไม้นั้นก็เหมือนกับของประเภทอื่นๆเหมือนกันคือ สั่งจากตลาด !! เสียบไม้สำเร็จมาแล้ว เพียงแต่ว่า มาปรุงในเรื่องของน้ำจิ้มให้มีรสชาติกลมกล่อมเท่านั้นเอง ไม่ได้มีสูตรอะไรเป็นพิเศษ แต่เน้นที่น้ำเคี่ยวสะเต๊ะ จนเป็นน้ำจิ้มที่มีรสเป็นมาตรฐานและถูกปากผู้บริโภคเท่านั้นเอง เดินจากประตูผีไม่ไกลยังมี ตี๋ เย็นตาโฟรสเด็ด,ก๋วยเตี๋ยวหมูต้มยำรสแซบตรงหัวมุมสี่แยกสำราญราษฎร์พอดี ข้ามถนนจะมีเดินอีกนิด จะเป็น โต ก๋วยจั๊บ (น้ำใส) และฝั่งตรงข้ามเป็นก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นหมูฮั้งเพ้ง ซึ่งเจ้าของร้านน่ะ เป็นคนที่คลุกคลีอยู่ในวงการบันเทิงนะจ๊ะจะบอกให้ !! |
Tuesday, June 30, 2009
อร่อยมื้อดึกย่านประตูผี
Author: health
| Posted at: 4:21 PM |
Filed Under:
อาหาร
|
อร่อยมื้อดึกย่านประตูผี
Subscribe to:
Post Comments (Atom)
0 comments:
Post a Comment