Sunday, July 19, 2009

วัคซีนหวัด 2009 พร้อมทดลองในสัตว์สิงหาคมนี้ ไม่มั่นใจไม่ใช้กับคน

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 19 กรกฎาคม 2552 17:02 น.

“วิทยา” เรียกรองปลัด-ผอ.อภ.ทำความเข้าใจประชาชนในทิศทางเดียวกัน ทั้งเรื่องวัคซีน ข้อมูลผู้ป่วย และการดำเนินการของ สธ.ในการรับมือการแพร่ระบาดของไข้หวัดใหญ่ 2009 ผอ.อภ.เผยวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ 2009 พร้อมทดลองในเดือนสิงหาคมนี้ สธ.เตรียมแจกคู่มือประชาชนป้องกันหวัด เริ่มพรุ่งนี้

นายวิทยา แก้วภราดัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เรียกรองปลัดกระทรวง สธ.ทั้ง 4 คน และผู้อำนวยการองค์การเภสัชกรรม (อภ.) เพื่อหารือถึงแนวทางทำความเข้าใจกับประชาชนกรณีการแพร่ระบาดของไข้หวัดใหญ่ สายพันธุ์ใหม่ 2009 ในเรื่องของวัคซีน ข้อมูลผู้ป่วย การดำเนินการของกระทรวง

นพ.วิทิต อรรคเวชกุล ผู้อำนวยการ อภ.กล่าวว่า กรณี ที่ อภ.ได้รับการสนับสนุนจากองค์การอนามัยโลก ด้านเทคโนโลยีและเจ้าหน้าที่เพื่อผลิตวัคซีนต้นแบบ โดยใช้เชื้อเป็นของไวรัส เอช1เอ็น1 โดยยืนยันว่า กระบวนการผลิตเป็นไปตามหลักวิชาการ คาดว่า ในเดือนสิงหาคมนี้ วัคซีนต้นแบบจะผลิตเสร็จ จากนั้นจะผ่านขั้นตอนการทดลองในสัตว์และคน โดยมีอนุกรรมการ 3 ชุด ควบคุมดูแลเป็นไปตามขั้นตอนความปลอดภัยตามหลักสากล ได้แก่ อนุกรรมการทดลองวัคซีนในคน อนุกรรมการขึ้นทะเบียนวัคซีน และอนุกรรมการส่งเสริมการผลิตวัคซีน ซึ่งจะมีหน่วยงานที่น่าเชื่อถือร่วมเป็นกรรมการ เช่น สภากาชาดไทย คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยต่างๆ ผู้เชี่ยวชาญ อภ.กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ เมื่อผลิตวัคซีนออกมาแล้ว หากไม่มั่นใจในความปลอดภัยก็จะไม่มีการนำมาใช้รักษาคนแน่นอน

ส่วนที่มีผู้เข้าใจผิดว่างบประมาณ 600 ล้านบาท ที่รัฐบาลอนุมัติให้จัดซื้อวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ 2009 จำนวน 2 ล้านโด๊ส จากบริษัท ซาโนฟี่ ประเทศฝรั่งเศส นั้น ไม่ใช่งบลงทุนผลิตวัคซีน ขอยืนยันว่า บริษัทที่สั่งซื้อวัคซีนเป็นบริษัทผลิตวัคซีนรายใหญ่ของโลก โดยวัคซีนดังกล่าวจะส่งถึงไทยในเดือนธันวาคม 2552 นี้ เหตุที่ต้องตัดสินใจซื้อ เพราะว่าเป็นช่วงกำลังระบาดสูงสุด หากรอนานอาจจะหมดวงจรการระบาดของโรคก่อน สำหรับการสำรองวัตถุดิบเพื่อผลิตยาต้านไวรัสโอเซลทามิเวียร์ (ทามิฟูล) ขณะนี้ อภ.เร่งผลิตเพื่อสำรองให้ได้ปริมาณ 20 ล้านเม็ด ภายในเดือนสิงหาคมนี้ รวมกับสต๊อกเดิมคงค้าง 4 ล้านเม็ด รวมแล้วมียาสำรองในระบบทั้งสิ้น 24 ล้านเม็ด

ด้าน นพ.ไพจิตร์ วราชิต รองปลัด สธ.กล่าวถึงการให้ข้อมูลกับประชาชน ว่า แม้จะมีการรายงานตัวเลขผู้ป่วยผู้เสียชีวิตสัปดาห์ละ 1 ครั้ง แต่กระทรวงยังได้รับรายงานและรวบรวมข้อมูลทุกวัน ขอชี้แจงว่า ขณะนี้ ประเทศไทยเข้าสู่ระยะที่ 3 คือ เชื้อแพร่กระจายทั่วประเทศแล้ว ทำให้ความสำคัญของห้องปฏิบัติการในการตรวจยืนยันเชื้อลดลงแล้ว จะมีเพียงการเฝ้าระวังกรณีมีอาการรุนแรงในกลุ่มเสี่ยงเท่านั้น ส่วนผลสำรวจจากโพลต่างๆ ระบุว่า ประชาชนยังไม่เชื่อมั่นรัฐบาลและกระทรวง ในการรับมือการแพร่ระบาดไข้หวัดใหญ่ นั้น คิดว่าเป็นที่การสื่อสารมากกว่า ซึ่งต้องแก้ไขปรับปรุง

“กระทรวงได้ยึดตามกรอบยุทธศาสตร์ชาติในการป้องกันควบคุมโรคไข้หวัด ใหญ่ ที่จัดทำตั้งแต่ พ.ศ.2549 ซึ่งได้ปรับตามสถานการณ์การเปลี่ยนแปลงของโรคตลอดเวลา อีกประเด็นหนึ่งคือ ความเห็นนักวิชาการ ยอมรับว่า แต่ละคนมีความเห็นไม่เหมือนกัน อีกทั้งเป็นโรคอุบัติใหม่ที่ประชาชนยังไม่เข้าใจ กระทรวงจะพยายามเปิดให้ประชาชนเข้าถึงข้อมูลมากขึ้น ทั้งทางเว็บไซต์ www.moph.go.th และสายด่วน 1422” นพ.ไพจิตร์ กล่าวและว่า ส่วนคู่มือป้องกันไข้หวัดใหญ่ 2009 ประชาชน เบื้องต้นจะจัดพิมพ์ประมาณ 4 ล้านเล่ม เริ่มแจกจ่ายให้ประชาชนในกรุงเทพฯ ได้ตั้งแต่พรุ่งนี้ (20 ก.ค.) ตามจุดบริการของ รพ.ร้านสะดวกซื้อ 7-Eleven ส่วนต่างจังหวัดได้รับวันอังคาร รับได้ที่ศาลากลางจังหวัด สำนักงานสาธารณสุขจัหวัด (สสจ.) และโรงพยาบาล

สำหรับปัญหาการใช้บริการช่องทางพิเศษสำหรับผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่ ในโรงพยาบาลทุกแห่งที่มีประชาชนใช้บริการหนาแน่นนั้น ขณะนี้ทาง รพ.ได้เพิ่มเวลาตรวจรักษาในช่วงเย็นด้วย จากเวลาราชการ เพิ่มเป็น 16.00-20.00 น.

ที่มา:http://www.manager.co.th/QOL/ViewNews.aspx?NewsID=9520000081510

0 comments:

Post a Comment

 

sanookde Copyright © 2009 Girlymagz is Designed by Bie Girl Vector by Ipietoon