Tuesday, July 21, 2009

ในคืนที่ผมถูกผีอำ

เมื่อวันก่อนนี้เอง เพื่อนของผมเล่าให้ฟังว่า ขณะที่กำลังจะตื่นประมาณสัก 9 โมงกว่า

มีผีผู้หญิงคนหนึ่งมานั่งทับตัวของเพื่อนผมไว้ ลักษณะคือ เพื่อนของผมนอนหงาย ชันเข่าขึ้น ผีผู้หญิงที่ว่านี่อำโดยการที่นั่งคุกเข่าอยู่ที่ปลายเท้าของเพื่อนผม เอาหน้าผากไว้บนหัวเข่า และเอามือทั้งสองข้างจับข้อมือของเพื่อนผมไว้ แถมร้องโหยหวนอีก เพื่อนผมกลัวมาก และได้เล่าเรื่องนี้ให้ฟัง แถมยังบอกว่าถ้าโดนอย่างนี้อีก จะบอกให้ผีเดินมาที่ห้องผม (ห้องของเราอยู่ตรงข้ามกัน) ผมก็ดันไปบอกว่า เชิญเลย!

เมื่อสักครู่นี้ผมถูกผีอำหลังจากหลุดแล้วจึงตื่น ขึ้นมาและเขียนกระทู้นี้ เป็นครั้งแรกในชีวิต ที่ถูกผีอำในลักษณะนี้ รู้สึกเหมือนมีคนมานอนกดทับ แถมยังร้อง แฮ่.... ยาวๆ เย็นๆ ใส่ข้างหู...

มีคำอธิบายเรื่องสาเหตุของการเกิดผีอำมากมาย เป็นต้นว่าเป็นเรื่องของเคมี เป็นความบาลานซ์ของ โซเดียมไบคาร์บอเนตและกรดคาร์บอนิคในเลือด พอฝันถึงอะไรสักอย่างที่น่ากลัว หรือ ฝันถึงสถานการณ์ที่ขัดแย้งกัน คนเราก็จะหายใจหอบ เมื่อหายใจหอบ คาร์บอนไดออกไซด์จะสลายตัวออกมาจากกรดคาร์บอนิค และส่งผลให้กรดคาร์บอนิคลดน้อยลง ทำให้เลือดมีสภาวะความเป็นด่างสูง เมื่อตกอยู่ในสภาวะนี้ จะรู้สึกอึดอัด เหนื่อย วิงเวียน เป็นความรู้สึกเดียวกันกับคนที่เพิ่งผ่านการร้องไห้หนักๆ มา ส่วนเรื่องที่ว่าบางคนเห็นผีนั้น เป็นอะไรที่คิดไปเอง [1]

ผมว่าแนวคิดนี้น่าสนใจไม่เบาเลยทีเดียว คือ ความเครียดจากความฝันทำให้เกิดขั้นตอนดังกล่าว ก่อนผมตื่นผมฝันอะไรเครียดๆ ด้วยสิ และผมก็ถูกผีอำทันที! อย่างไรก็ดี ผมเคยฝันเครียดกว่านี้หลายครั้ง ซึ่งเมื่อลองชั่งน้ำหนักดูแล้วฝันครั้งนี้ไม่เครียดเท่าไหร่นัก แนวคิดนี้จึงไม่ค่อยน่าเชื่อถือเท่าไหร่

หลวงพ่อท่านหนึ่ง มีชาวบ้านมาปรึกษาว่า มีอาคารบางหลัง เมื่อเข้าไปนอนแล้วก็จะถูกผีอำ หลวงพ่อท่านจึงเข้าไปนอน เมื่อหลวงพ่อท่านไปนอนท่านก็ถูกผีอำ รู้สึกเหมือนมีคนมาเหยียบอก เมื่อหลุดจากผีอำ ท่านจึงขึ้นลุกขึ้นมาสังเกตุสภาพแวดล้อมรอบตัว และสรุปได้ว่าเป็นเพราะ ต้นไม้ดูดอ๊อกซิเจนในเวลากลางคืนและก็คายคาร์บอนไดออกไซด์ออกมาทำให้อึดอัด หรือ ถ้าไปนอนในสถานที่ซึ่งอากาศถ่ายเทไม่สะดวก ก็จะมีอาการอึดอัดที่ว่านี้ได้ [2]

โอเค ที่จริงแล้วห้องของผมสามารถสร้างภาวะขาดอ๊อกซิเจนอย่างที่ว่านี้ได้ (ซึ่งหลายคนคงเห็นด้วยเพราะห้องของผมรก ซึ่งนั่นเป็นการหลุดประเด็นอย่างร้ายกาจ) แต่เป็นเพราะที่อังกฤษอากาศหนาวผมจึงต้องปิดหน้าต่างให้ในตอนกลางคืน อาจส่งผลให้ระดับอ๊อกซิเจนในห้องลดลงได้ อย่างไรก็ดี ผีอำที่โดนเมื่อสักครู่นี้ไม่ใช่อึดอัด มันเป็นความรู้สึกที่คนมานอนทับ เพราะผมนอนตะแคงด้านซ้าย ส่วนผีมันมานอนทับทางด้านขวา (แล้วร้องแฮ่ใส่หู) ไม่ได้รู้สึกอึดอัด แต่เป็นความรู้สึกที่ถูกทับต่างหาก

นอกจากนี้แล้วยังมีคำอธิบายมากมาย เช่น เป็นเพราะนอนอยู่ใต้คาน แรงกดทับของคาน (เหมือนแรงแม่เหล็ก) กดทับทำให้เราขยับตัวไม่ได้ บ้างว่าเป็นเพราะนอนทับเส้นทำให้ขยับตัวไม่ได้ [3] และอีกมากมายแต่ผมเองไม่พอใจกับแนวคิดดังกล่าวเท่าใดนัก

รศ.นพ.มาโนช เชื่อว่า อาการผีอำนั้นเกิดจากการเปลี่ยนแปลงของคลื่นสมอง ซึ่งระหว่างจากช่วงตื่นมาสู่ช่วงนอน คลื่นสมองจะมีการเปลี่ยนนิดหนึ่ง ในช่วงที่คลื่นสมองมีการเปลี่ยนบางคนอาจจะมีความรู้สึกแปลกๆ ได้หลากหลายอย่าง โดยอาการผีอำนี้เกิดขึ้นในช่วงที่สมองเราทำงาน แต่ร่างกายเราอยู่นิ่งตอนนี้กล้ามเนื้อของร่างกายจะไม่เคลื่อนไหว แต่สมองมีการฝันมาก เป็นความผิดปกติในช่วงที่เราเรียกว่า REM ช่วงที่ร่างกายเราขยับเขยื้อนไม่ได้เพราะระยะการนอนช่วงนั้นกล้ามเนื้อจะไม่ มีการเคลื่อนไหวเลย ก็เลยทำให้รู้ตัวแต่ขยับเขยื้อนไม่ได้ ซึ่งเจ้าตัวส่วนใหญ่จะตกใจ ตัวที่กระตุ้นให้เกิดความผิดปกติของการนอน คือ หลับไม่ดี ไม่ได้นอนมานาน มักจะกระตุ้นให้เกิดอย่างนี้ [4]

ยอมรับว่าในสัปดาห์ที่ผ่านมานั้น รวมทั้งเมื่อคืนนี้ ผมพักผ่อนได้ไม่เต็มที่ คำอธิบายของคุณหมอท่านนี้เป็นเหตุเป็นผลมาก แต่มีอยู่จุดหนึ่งที่ยังคาใจอยู่ ความรู้สึกขยับตัวไม่ได้ กับความรู้สึกที่มีคนมานอนทับจนขยับตัวไมได้นั้นมันแตกต่างกัน อย่างไรก็ดีผมค่อนข้างพอใจกับคำตอบนี้มากที่สุด

เอ หรือเป็นเรื่องของวิญญาณจริงๆ มีผู้คนจำนวนมากมาย เช่น [5] ซึ่งถ้าไม่ได้ใส่พระห้อยคอตอนนอนล่ะก็จะมีผีแขกมานั่งทับตัว ซึ่งเมื่อวานนี้ ผมก็เหมือนจะท้าทายผีเขาไม่ได้ให้ความเคารพเท่าไหร่ เขาเลยมาเตือน

ถึงตรงนี้ผมอยากทบทวนเหตุการณ์ทั้งหมดอีกครั้ง ผมรู้สึกตัวตอนที่ผมนอนตะแคงทางด้านซ้ายอยู่ คุณผีมานอนทับ ซึ่งทับทางด้านขวา แรงกดของคุณผี กดทับตลอดตัว แขนขวา ขาขวา ตลอดจนลำตัวทางด้านขวาทั้งหมด คุณผีร้องแฮ่ เสียงเย็นๆ ใส่หู ตอนนั้นผมสวดมนต์ มันสวดเองอัตโนมัติ บท อะระหังฯ ตอนสวด สวดในใจ เพราะลืมตาไม่ได้ แต่ในขณะนั้นยังขยับตัวด้านซ้ายได้ อ้อใช่ ผมเอามือซ้ายคว้าคอคุณผีนี่นาจะบีบคอเขา แต่ไม่โดนเพราะมันว่างเปล่า ทันทีที่ลืมตาได้ ก็รีบมอง แต่ไม่เห็นอะไร และรู้สึกเย็นๆ ที่ร่างกายฝั่งขวาหลังจากนั้น

ผมว่าเรื่องที่ผ่านมานั้นคงไม่ใช่ผี แต่เป็นอย่างที่ รศ.นพ.มาโนช ได้บอกเอาไว้เกี่ยวกับคลื่นสมอง ซึ่งไอ้อาการกดทับนี่ ผมคิดว่ามันก็เป็นความรู้สึกที่ไม่ได้ต่างกับการขนลุกเท่าไหร่ คือเวลาเรากลัวอะไรมันก็ขนลุก บางคนกลัวหนักก็จะรู้สึกเย็นวาบ บางคนรู้สึกเหมือนโดนบีบ ซึ่งไม่รู้ว่าอะไรมันเกิดก่อนกัน ว่าเพราะรู้สึกกลัวจึงรู้สึกเหมือนถูกนอนทับ หรือเพราะรู้สึกนอนทับจึงรู้สึกกลัว อย่างไรก็ดี ถ้าวันนึงใครเจอประสปการณ์อย่างนี้ ก็ให้แก้อย่างที่ผมทำแล้วกัน...ให้เอามือไปบีบคอเขา แล้วทุกอย่างก็จะดีขึ้นเอง!....


ขอขอบคุณเรื่องเล่าจาก
บล็อคแก๊งดอทคอม

0 comments:

Post a Comment

 

sanookde Copyright © 2009 Girlymagz is Designed by Bie Girl Vector by Ipietoon