Sunday, June 28, 2009

เรื่องจริงผ่านจีร์.....ขอเล่นด้วยคน

เรื่องจริงผ่านจีร์.....ขอเล่นด้วยคน

ตอน นั้น ผมยังเรียนอยู่ที่บ้านโป่ง จ.ราชบุรี  พี่เขยผมเข้าโรงพยาบาลบ้านโป่งด้วยโรคงี่เง่า คือเมื่อกินเหล้าเข้าไปมากๆจะต้องถ่ายเลือดทุกครั้งจำได้ว่าตอนนั้นแกนอนโรง พยาบาล อยู่ 2 อาทิตย์

ช่วงอาทิตย์แรกผมไม่ได้ไปเฝ้าแกหลอกเพราะมีคนเฝ้ากันเยอะแระ แต่อาทิตย์หลังผมต้องเข้าไปนอนเฝ้าเองกะพี่ชายอีกคน(ลูกพี่ลูกน้อง ชื่อ มิตร เป็นทหารตอนนั้นยศ สิบตรี) จำได้ว่าตอนนั้นอยู่ในช่วงเดือน กันยายน (แล้วจะบอกทำไมวะ) เอาเป็นว่า มิตร มันเข้าไปนอนเฝ้าก่อนเพราะผมต้องรอรับอากลับจากที่ทำงานหลัง 3 ทุ่ม คืนแรกที่ไปนอนเฝ้าพี่แก ยังเหตุการณ์ปกติ  ต่อมาคืนที่สอง คือ คืนนั้นผมเข้ามาพร้อมกะน้องสาวรวมเป็น 2 คน (จิรา จากเรื่อง ผีซิมมือถือ) พี่เขยแกนอนอยู่ชั้น 4 ของตึก (จำชื่อไม่ได้ รู้แต่ว่าเป็นตึกของพวกใช้ประกันสังคม) ตอนขึ้นลิฟท์ ไปผมได้ยินเหมือนมีเสียงอะไรบางอย่างดังออกเหมือนมีใครเข้ามาด้วยแต่มองไม่ เห็นนอกจากเรา 2 คน แต่ผมก็เงียบไม่พูดอะไรให้น้องตกใจ พอลิฟท์ขึ้มาถึงช้น 2 ประตูลิฟท์ก็เปิดออก กลับไม่มีคนอยู่หน้าลิฟท์  น้องผมหันมามองพร้อมทำสีหน้าไม่ดี ผมเลยบอกไปว่า ตรูแกล้งเอง (จิงๆแล้วไม่รู้เรื่อง) พอลิฟท์ขึ้นมาถึงช้น 3 ประตูลิฟท์ก็เปิดออก กลับไม่มีคนอยู่หน้าลิฟท์เหมือนเดิม น้องมันหันมามองหน้าผมด้วยสีหน้าไม่พอใจ  จนลิฟท์ขึ้นมาถึงชั้น 4 เราก็เดินไปยังห้องของพี่เขย จำได้ว่าอยู่สุดของทางเดินขวามือ (จำเลขห้องไม่ได้) ตลอดเวลาที่กำลังเดินไปนั้นได้ยินเหมือนเสียงคนเดินตามตลอด พอเข้าไปในห้องความรู้สึกของผมตอนนั้นมันอึดอัดใจมากๆ ตอนนั้นเห็นมิตรดูหนังอยู่เลยถามว่ากินอะไรแล้วยัง มิตรบอกยัง แล้วยังออกปากให้ผมไปซื้อข้าวกล่องขึ้นมาให้ ผมเลยเดินลงไปซื้อข้าวกล่องอีกรอบ คราวนี้ ตอนขึ้นลิฟท์มา หลังจากซื้อข้าวเสร็จ ผมยังได้ยินเสียงเหมือนตอนแรกที่เข้ามา พอลิฟท์ขึ้นมาถึงชั้น 2 ประตูลิฟท์ก็เปิดออก กลับไม่มีคนอยู่หน้าลิฟท์  เหมือนตอนมาครั้งแรกเลย  พอลิฟท์ขึ้มาถึงชั้น 3 ประตูลิฟท์ก็เปิดออก กลับไม่มีคนอยู่หน้าลิฟท์เหมือนเดิม แต่ไม่คิดอะไรมากในใจพูดกะตัวเองว่า ผมมาเฝ้าพี่เขยยังไงๆก็ อย่ามารบกวนกันเลย อยากได้อะไรให้บอกเดี๋ยวพรุ่งนี้จัดการให้  หลังจากออกจากลิฟท์มา เดินไปยังห้อง ความรู้สึกที่อึดอัดใจหายไปหมดเหมือนเขาจะรับรู้กะสิ่งที่เราคิดออกไป พอเข้าไปในห้องตอนนั้น มิตรมันดูรายการมิติพิศวง ผมจำได้ดีเลย ผมถามมันว่า แล้วจิราไปไหนละ มันบอกกลับไปแล้ว แล้วผมถามต่อว่าไม่กลัวผีเหรอ มันบอกกลัวทำไม ชายชาติทหารอย่างพี่ไม่กัวหลอก (มันเป็นคนที่กลัวผีเอามากๆ)
แล้วเรื่องมันก็เริ่มจากตรงนี้ .....

ตรงหน้าระเบียงห้องจะมีกระจกบานใหญ่ที่เป็นประคูแบบเลื่อนได้ ม่านยังเปิดอยู่ ตอนนั้นก็ไม่คิดที่ปะปิดมันหลอก ผมกะมิตรนอนดูหนังอยู่แล้วก็มีคล้ายๆ อะไรบางอย่างลอยผ่านบานกระจกไปแบบเร็ว  ผมหันไปถามมิตรว่าเห็นอะไรบ้าง เค้าบอกว่าไม่นิ ผมเลยเฉยๆ ตอนนั้นคิดว่าแสงไปจากรถคงส่องเข้ามา เลยเดินไปดู ก็กลับพบว่า ห้องอยู่ชั้น 4 แสงไปมาไม่ถึงแน่ และเหลือบไปเห็นอาคารเก่าชั้นเดียวอยู่ตรงสุดทางจอดรถ  ผมรู้สึกแปลกๆขึ้นมา ทันที แต่ไม่คิดอะไร เลยตัดสินใจ ปิดผ้าม่าน แต่มันปิดได้นิดเดียวมันติดอะไรก็ไม่รู้ ยังเหลือพอประมาณตัวคนพอดี  ผมเลยให้มิตรไปปิดต่อ มันดึงสายผ้าม่านอยู่นานก็ปิดไม่ได้เลยทิ้งไว้แบบนั้น  แล้วก็กลับมานอนต่อ ผ่านไปหลายนาที มีอะไรบางอย่างผ่านม่านไปอีกแล้วเหมือนเดิม  แต่ตอนนี้ มิตรมันหลับไปแล้ว เหลือผมคนเดียว ผมก็ทำเป็นเฉยๆ ไม่สนใจอะไร ครึ่งชั่วโมงผ่านไป มีอะไรบางอย่างผ่านม่านไปอีกแล้วเหมือนเดิมแต่คราวนี้ช้าจนมองเห็นทัน ผมเห็นเว็บๆว่าเป็นชายผ้าสีครีม แล้ววิ่งตามไปดูกลับไม่เห็นอะไร ผมเลยตัดสินใจ เดินไปถามห้องข้างหน้าทางเดิน ที่นางพยาบาลอยู่ว่ามันมีอะไรกันแน่ห้องนี้  เค้าบอกว่าไม่มีอะไรหรอก แต่สีหน้าที่ตูดเหมือนกะคนที่ตื่นตกใจอะไรบางอย่าง  ผมว่านะ ผมเลยเดินกลับห้องพร้อมกับความคิดที่ไม่เชื่อกับสิ่งที่นางพยาบาลบอกผ่านไป ไม่นานคราวนี้มายืนอยู่เลยครับ ตรงช่องม่านที่ว่า มองดูผม ผมเห็นจะๆ เลย แต่ไม่รู้ทำไมจำหน้าไม่ได้ ผมนึกในใจว่ามาทำไม แล้วมีอะไรให้ช่วยมั้ย ไม่มีเสียงอะไรดังออกมา จากนั้นก็หายไป(เคยมีพระบอกผมว่าผมนะมีสัมผัสสามารถเจอสิ่งเล้นลับที่เรียก ว่าวิญญาณง่ายกว่าคนปกติ ถ้าเค้ามาให้เห็น แสดงว่าเค้ามาขอส่วนบุญ หรือไม่ก็มาขอความช่วยเหลือ) แล้วผมก็นอนดูทีวีต่อ คราวนี้ ได้ยินเสียงน้ำไหลดังมาจากห้องน้ำ  ผมเดินเข้าไปดู ก๊อกน้ำยังปิดอยู่ปกติ เลยกลับมานอนต่อ แล้วก็ได้ยินเสียงน้ำไหลดังมาจากห้องน้ำอีก ผมไม่ไปดูนอนฟังอยู่เฉยๆ จนมันเงียบไปเอง แต่คราวนี้มันมาดังที่ลูกบิดประตูแทนเหมืนมีคนบิดลูกบิดแล้วก็ปล่อย ประมาณนั้น ที่แรกผมนึกว่านางพยาบาลมาเปิดแล้วก็ปล่อย ผมเดินออกไปดูไม่เห็นใคร จากนั้นก็ดังแบบนี้เรื่อยๆ  จนผมดูทีวีไม่รู้เรื่อง เลยตัดสินใจไปล๊อคประตู เพราะถ้าเราล๊อคประตูลูกบิดมันก็จะบิดไม่ได้อย่างน้อยๆ ก็ได้ยินเสียงเบาลงมา (ผมคิดยังนั้นนะแกล้งมันซะเลย 555) แล้วผ่านไปประมาณ 5 ทุ่ม คราวนี้ลูกบิดประตูดังมากๆ มีเสียงเคาะด้วย ดังอยู่สักพักมี่เสียงคนพูดว่าเปิดประตูด้วย แต่ผมก็ไม่กล้าเปิด พูดอยู่นาน ผมจึงตัดสินใจไปเปิดพบว่านางพยาบาลมายืนอยู่หน้าประตูเพื่อจะให้ยากะพี่เขย (ผมโดนด่าแถมด้วย ใครจะไปรู้ละ แต่ก็ไม่กล้าเล่าให้นางพยาบาลฟัง)พอนางพยาบาลออกไปจากห้อง สักพักเสียงมันก็ดังอีกเหมือนเดิมผมเดินออกไปดูกลับไม่มีใคร คราวนี้ ดังตลอดทั้งคืนเลย เสียงลูกบิดประตูสลับกับเสียงน้ำไหล (ฟังดูเหมือนเสียงคน Hiphop เลย 555+)จำได้ว่าเกือบๆตี 1 ผมยังนอนไม่หลับ เพราะเสียงที่ได้ยิน  เลยตัดสินใจนึกในใจว่า อย่ามารบกวนกันเลย ยังไงก็ไปกวนไอ้มิตรมันจะดีกว่าเพราะผมนะไม่กลัว(มันนอนสบายเกินไป)ผ่านไป หลายนาทีเสียงที่ดังกลับเงียบลง วังเวงขึ้นกว่าเก่า จากนั้นไม่นานมันก็ดังขึ้นมาอีก ผมเลยพูดว่า ถ้าจะเล่นก็เล่นไปคนเดียวเหอะผมจะนอนแระ แล้วก็นอนหลับไปเมื่อไหร่ก็ไม่รู้………
พอรุ่งผมเดินเข้าไปถามห้องที่นางพยาบาล อยู่ว่าห้องนั้นมีอะไรกันแน่ (ผมถามแบบจิงจังเหมือนจะเอาเรื่อง) นางพยาบาลคนเดิมบอกว่าเจอเหรอ ผมบอกครับ เค้าบอกว่าคนไม่เจอมานานแล้วนะ ยังอยู่อีกเหรอ แล้วเค้าก็เล่าให้ฟังว่าห้องๆนั้นนะเคยมีผู้หญิงเสียชีวิตมาก่อน จะคอยมาแกล้งกะคนที่มาเฝ้า แต่นานๆที่ คนที่เจอถือว่าโชคร้ายมากๆ  แล้วผมก็ถามต่อว่าห้องข้างล่างที่ลานจอดรถ มันห้องอะไร ผมสงสัยตั้งแต่เมื่อคืนแล้วตอนออกไปดูหน้าระเบียง นางพยาบาลเค้าบอกว่าเป็นห้องเก็บศพเก่านะ ตอนนี้ไม่ได้ใช้แล้ว เห็นว่าเฮี้ยนน่าดูเหมือนกัน หลังจากนั้นผมก็ได้ไปถวายสังฆทาน แล้วก็ไปเฝ้าพี่เขยเหมือนปกติเหมือนทุกคืน กลับไม่เจอเรื่องที่เจอเมื่อคืน (หรือว่าผมแค่ฝันไป 555+ พูดเล่น)

0 comments:

Post a Comment

 

sanookde Copyright © 2009 Girlymagz is Designed by Bie Girl Vector by Ipietoon