Saturday, July 11, 2009

แด่ข้อเท็จจริง ที่หาไม่พบใน “รหัสลับดาวินชี” รศ.ดร.กฤษณา หงษ์อุเทน



ทันที ที่พ้นวาระจากงานบริหาร ในตำแหน่งหัวหน้าภาควิชาทฤษฎีศิลป์ คณะจิตรกรรม ประติมากรรมและภาพพิมพ์ มหาวิทยาลัยศิลปากร ไปเมื่อช่วงต้นปี พ.ศ.25 52 นักประวัติศาสตร์ศิลป์และนักวิจารณ์ศิลปะอย่าง รศ.ดร.กฤษณา หงษ์อุเทน ก็มีหนังสือศิลปะเล่มใหม่ “เผยความลับที่ไม่ลับ ของ รหัสลับดาวินชี” ออก มาเปิดโปง ความจริงที่ถูกปิดบัง ซ่อนเร้น และบิดเบือนอย่างมโหราฬ ใน รหัสลับดาวินชี (The Da Vinci Code) นวนิยายอาชญากรรมเชิงสืบสวนสอบสวนของ แดน บราวน์ ที่โด่งดังและขายดีที่สุดเมื่อ 3 -4 ปี ที่ผ่านมา

ครั้งนี้นับเป็นการทุบกระปุกพิมพ์หนังสือเองอีกครั้ง ของด็อกเตอร์ผู้ จบการศึกษาด้านประวัติศาสตร์ศิลปะตะวันตกจากประเทศเย อรมัน หลังจากที่ก่อนหน้านี้ได้พิมพ์หนังสือ “ศิลปะคริสเตียนในทวีปยุโรป” และ “ศิลปะคลาสสิก” เพื่อเป็นตำราให้นักศึกษาศิลปะได้ใช้ศึกษาค้นคว้าประ กอบการเรียน

ซึ่งเหตุผลที่ทำให้หาญกล้าพิมพ์หนังสือออกมา แม้จะรู้ดีว่าทุนที่ลงไปจะต้องกลายเป็นเบี้ยหัวแตก อีกทั้งเป็นช่วงเวลาที่กระแสการอ่าน รหัสลับดาวินชี ได้แผ่วเบาลงไป

สิ่งสำคัญก็เพื่อเป็นการปกป้องข้อเท็จจริงที่เกี่ยวก ับ Leonardo da Vinci และผลงานศิลปะของเขาที่ปรากฏในนวนิยายเล่มดัง รวมทั้งกล่าวแก้ข้อเท็จเกี่ยวกับคริสต์ศาสนาบางประกา รที่เกี่ยวโยงกับผลงาน ศิลปะของ Leonardo da Vinci เพื่อสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องให้กับผู้อ่านที่นับถ ือ และไม่ได้นับถือคริสต์ศาสนา

โดยก่อนที่จะกลายมาเป็นหนังสือ “เผยความลับที่ไม่ลับ ของ รหัสลับดาวินชี” คนที่ได้อ่านหนังสือ “รหัสลับดาวินชี” ของแดนบราวน์ ก็มักจะมี คำถามแปลกๆมาให้ รศ.ดร.กฤษณา ช่วยไขข้อสงสัยเสมอ โดยเฉพาะเรื่อง ความสัมพันธ์ฉันชู้สาวระหว่างพระเยซูและแมรี่ แม็กดาลีน ,ภาพนักบุญจอห์นในจิตรกรรมฝาผนัง The Last Supper ของ Leonardo da Vinci ที่จริงคือภาพ แมรี่ แม็กดาลีน ซึ่งเป็นพระชายาของพระเยซูจริงหรือไม่ ,มือที่ลึกลับที่ไม่ปรากฏร่างในภาพนี้มาจากไหน และหมายความว่าอย่างไร ฯลฯ

ซึ่งคำตอบมักจะลงเอยด้วยข้อสรุปที่ว่า “ข้อเท็จจริงที่กล่าวถึงในนวนิยายล้วนแล้วแต่เป็นข้อ มูลที่ผู้แต่งจงใจสร้าง เรื่องขึ้นมาเพื่อให้เข้ากับโครงเรื่องของนวนิยายเท่ านั้น

และเมื่อปี พ.ศ.2549 รศ.ดร.กฤษณา ได้รับเชิญจาก มูลนิธิพันธกิจพระพร (ไทย) เชียงใหม่ เพื่อให้สัมภาษณ์เชิงแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับหนังสื อ “รหัสลับดาวินชี” ในรายการโทรทัศน์ “จากใจถึงใจ” ที่เคยออกอากาศทางช่อง ITV และต่อมายังได้รับเชิญจาก หอศิลป์ร่วมสมัยอเดล ให้ไปปาฐกถาในหัวข้อ “ทฤษฎีทางประวัติศาสตร์ศิลป์กับรหัสลับดาวินชี” ซึ่งมีผู้ให้ความสนใจเข้าร่วมฟังและซักถามข้อสงสัยจำ นวนมาก

แต่ด้วยระยะเวลาอันจำกัดที่ทำให้ไม่สามารถพูดหรืออธิ บายในสิ่งที่รู้ ได้หมด รศ.ดร.กฤษณา จึงมีความคิดที่จะเขียนหนังสือเพื่อเผยแพร่ข้อเท็จจร ิงต่างๆให้ผู้ที่สนใจ ได้รับรู้ในวงกว้าง แทนที่จะคอยตอบคำถามผู้อ่านรหัสลับดาวินชีหลายรายที่ เหมือนจะไม่เคยหมดคำถาม

รศ.ดร.กฤษณา ได้ย้ำบอกอีกครั้งในวันที่ทุกคำตอบได้ถูกร้อยเรียงไว ้ในหนังสือ “เผยความลับที่ไม่ลับ ของ รหัสลับดาวินชี” เรียบร้อยแล้ว และพร้อมที่จะให้ความกระจ่างแก่ผู้อ่านชาวไทยที่ยังอ ินกับเรื่องแต่งของ แดน บราวน์ ไม่เลิกว่า

“สิ่ง ที่แดนบราวน์อ้างไว้ในหน้าหนังสือของเขาว่า ข้อมูลทุกอย่างเป็นเรื่องจริง มีเอกสารหลักฐานที่สามารถยืนยันได้ แต่ถ้านักวิชาการทุกสาขาที่เกี่ยวข้องมาอ่านก็จะรู้ว ่าเป็นเรื่องยกเมฆทั้ง สิ้น”

“เผยความลับที่ไม่ลับ ของ รหัสลับดาวินชี” เธอได้อุทิศให้ “แด่ข้อเท็จจริง” ที่เราหาไม่พบใน “รหัสลับดาวินชี” พร้อมกับมีบรรณานุกรรมอ้างอิงถึงที่มาของข้อมูลและภา พประกอบไว้ครบถ้วน

“สิ่งที่ดิฉันเขียนมันเป็นข้อเท็จจริงที่แดนบราวน์ปก ปิด หรือบิดเบือนทั้งสิ้น และจำกัดอยู่ที่งานของ Leonardo da Vinci เพราะว่างานของเขา โดยเฉพาะอย่างยิ่ง The Last Supper ซึ่งเป็นกุญแจดอกสำคัญในเรื่องรหัสลับดาวินชี

และหนังสือของดิฉันจะทำให้คนได้เห็นสิ่งที่บิดเบือนไ ปจากความเป็น จริง ไม่ว่าชีวิตและผลงานของ Leonardo da Vinci ในฐานะที่เราเป็นนักประวัติศาสตร์ศิลป์ เราอยากจะเคลียร์เรื่องนี้ให้กับคนที่อ่านรหัสลับดาว ินชี และเชื่อตามแดนบราวน์ ว่าจริงๆ แล้วความจริงมันไม่ได้เป็นแบบนั้น

และมันยังมีเรื่องที่เกี่ยวข้องกับศาสนาด้วย ซึ่งคนที่อยากเข้าใจงานศิลปะตะวันตกต้องศึกษาคริสตศา สนา เพราะศิลปะตะวันตก มันเกี่ยวข้องกับคริสตศาสนา แต่ในหนังสือของดิฉัน ไม่ได้พยายามที่จะเคลียร์ทุกเรื่องของคริสตศาสนา แต่จะเคลียร์เฉพาะเรื่องที่เกี่ยวข้องกับงานศิลปะของ Leonardo da Vinci “

ถ้าหวังที่กอบโกยในเรื่องของรายได้ “เผยความลับที่ไม่ลับ ของ รหัสลับดาวินชี” รศ.ดร.กฤษณา ที่เพิ่งเผยโฉมครั้งแรกในงานสัปดาห์หนังสือ เมื่อเดือนมีนาคม พ.ศ.2552 อาจจะมาช้าไปสำหรับกระแสของ “รหัสลับดาวินชี” ของแดนบราวน์ ที่เคยสร้างยอดขายถล่มทลายเมื่อหลายปีก่อน

ทว่าไม่น่าจะช้าเกินไปสำหรับผู้ที่สนใจศิลปะ และ Leonardo da Vinci ที่ยังหาหนังสือที่เขียนและวิเคราะห์โดยผู้เขียนชาวไ ทยผู้มีความรอบรู้ใน ประวัติศาสตร์ศิลปะตะวันตกที่จะสื่อสารทุกเรื่องราวใ ห้เข้าใจอย่างง่ายๆไม่ ได้

เพราะคนจำนวนไม่น้อยในครั้งที่ควักสตางค์ซื้อ “รหัสลับดาวินชี” อ่าน เหตุผลก็เพราะต้องการรู้เรื่องราวเกี่ยวกับชีวิตและผ ลงานของศิลปินอัจฉริยะ ของโลกอย่าง Leonardo da Vinci และมีไม่น้อยรายที่รอนแรมไปตามสถานที่ต่างๆ เพื่อจะได้สัมผัสใกล้ชิดกับข้อมูลที่นวนิยายของ แดน บราวน์ อ้างถึง และในที่สุดก็ได้มาทราบความจริงจากปากนักวิชาการและแ ดน บราวน์ว่ามันเป็นแค่เรื่องแต่ง

ความจริงที่ “รหัสลับดาวินชี” มอบให้แก่ผู้อ่านและ รศ.ดร.กฤษณา พยามจะส่งสารถึงผู้อ่านและผู้ที่กำลังคิดจะอ่านได้ตร ะหนักและใส่ใจอยู่เสมอ คือ

“รหัสลับดาวินชี เป็นเพียงนวนิยายอ่านสนุกและมีการนำเสนอเรื่องได้เร้ าความสนใจมากเล่มหนึ่ง เท่านั้น แต่เนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับประวัติศาสตร์ ประวัติศาสตร์ศิลป์ และศาสนานั้น หาความจริงแทบจะไม่มี เพราะข้อมูลต่างๆที่นำมาเสนอให้เข้ากับโครงเรื่องของ นวนิยายได้ถูกนำมาบิด เบือนเปลี่ยนแปลง ไปจนถึงการสร้างข้อมูลและหลักฐานเท็จขึ้นมาเพื่อสร้า งความน่าสนใจและความ เป็นเหตุเป็นผลให้กับนวนิยายเท่านั้น"

แต่อย่างน้อยๆความสนใจที่ถูกปลุกเร้าขึ้นมาจะยังคงอย ู่ และกลายเป็นแรงผลักดันให้พวกเขาเหล่านั้นแสวงหาข้อมู ลที่ถูกต้องและเชื่อถือ ได้จากหนังสือซึ่งเกี่ยวข้องกับเรื่องเหล่านั้นโดยตร ง

“บาง ทีเมื่อพวกเขาได้ศึกษาข้อเท็จจริงเหล่านั้นอย่างจริง จัง ก็อาจจะพบว่า ข้อมูลของจริงนั้นช่างน่าตื่นเต้นและลึกลับชวนให้พิศ วงมากกว่าข้อมูลเท็จที่ แดน บราวน์ ได้เสกสรรปั้นแต่งขึ้นมาในนวนิยายเสียอีก”

และข้อเท็จจริงเหล่านั้น แน่นอนว่าเบื้องต้นเราสามารถตามหาได้ใน “เผยความลับที่ไม่ลับ ของ รหัสลับดาวินชี” โดย รศ.ดร.กฤษณา หงษ์อุเทน

รู้จัก ... รศ.ดร.กฤษณา หงษ์อุเทน

รศ.ดร.กฤษณา หงษ์อุเทน จบปริญญาตรี อักษรศาสตร์บัณฑิต (ภาษาอังกฤษ) จากมหาวิทยาลัยศิลปากร จบปริญญามหาบัณฑิต ( Magistra Artium) สาขาวิชาประวัติศาสตร์ศิลปะตะวันตก จากมหาวิทยาลัย Techische Universitaet Carolo – Wilhelmina แห่งเมือง Braunschweig และได้รับทุนการศึกษาจากรัฐบาลเยอรมนี (Deutscher Akademischer Austauschdienst/DAAD) ให้ไปศึกษาต่อจนจบปริญญาดุษฎีบัณฑิต สาขาประวัติศาสตร์ศิลปะตะวันตก จากมหาวิทยาลัย Osnabrueck แห่งเมือง Osnabrueck

ปัจจุบันรับราชการตำแหน่งรองศาสตราจารย์ ระดับ 9 คณะจิตรกรรม ประติมากรรมและภาพพิมพ์ มหาวิทยาลัยศิลปากร และได้รับทุนจาก โครงการเครือข่ายเชิงกลยุทธ์เพื่อการผลิตและพัฒนาอาจ ารย์ในสถาบันอุดมศึกษา (สกอ.) เพื่อทำวิจัยเรื่อง “ประวัติศาสตร์ศิลปะสมัยใหม่ในประเทศไทย”

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์



............................................................

0 comments:

Post a Comment

 

sanookde Copyright © 2009 Girlymagz is Designed by Bie Girl Vector by Ipietoon